ศรีสุวรรณ ร้อง กสทช. สอบจริยธรรมนักเล่าข่าว

ล่าสุด วันนี้ (วันที่ 3 พ.ค.)  นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำ ร้ อ ง ต่อสำนักงาน กสทช.เมื่อ 20 เม.ย.64 หลังพิธีกรนักเล่าข่าวชื่อดัง ได้หวนกลับคืนสู่หน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง ทั้งๆที่ยังไม่พ้น โ ท ษ เพียงแต่ถูกพัก โ ท ษให้ออกจาก เ รื อ น จำ  แต่ยังติดกำไลอีเอ็มที่ข้อเท้าไปอีก 14 เดือนและต้องรายงานตัวต่อกรม คุ ม ประพฤติไปจนกว่าจะพ้น โ ท ษ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจขัดต่อ ก ฎ ห ม า ย และหรือขัดต่อจริยธรรมแห่งวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์นั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การ ร้ อ ง เรียนดังกล่าวสำนักงาน กสทช.ได้แจ้งมายังสมาคมฯว่า ข้อ ร้ อ ง เรียนเกี่ยวกับจริยธรรมสื่อมวลชนนั้น สำนักงาน กสทช.มีอำนาจดำเนินการตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ 2551 ม.40 ที่ระบุว่า ผู้ที่ได้รับความ เ สี ย ห า ย เนื่องจากรายการที่ออกอากาศเป็น เ ท็ จ หรือ ล ะ เ มิ ด สิ ท ธิ เสรีภาพ เกียรติยศ ชื่อเสียง สิทธิในครอบครัว หรือความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคลอาจ ร้ อ ง เรียนต่อคณะกรรมการฯ ให้คณะกรรมการส่งเรื่องพร้อมความเห็นของคณะกรรมการให้องค์กร ค ว บ คุ ม การประกอบอาชีพหรือวิชาชีพตาม ม.39 เพื่อให้ดำเนินการ เ ยี ย ว ย า ให้แก่ผู้เสียหายโดยเร็ว และให้คณะกรรมการติดตามผลการดำเนินการขององค์กรควบคุมการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพตาม ม.39

เมื่อองค์กร ค ว บ คุ ม การประกอบอาชีพหรือวิชาชีพตาม ม.39 ได้แจ้งผลการดำเนินการให้คณะกรรมการทราบแล้ว ให้แจ้งผู้ร้องเรียนทราบผลการดำเนินการโดยเร็ว ในการนี้ สำนักงาน กสทช.ได้มีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทต้นสังกัดของนักเล่าข่าวชื่อดังดังกล่าว และองค์กรวิชาชีพสื่อที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พิจารณาและดำเนินการต่อข้อ ร้ อ งเรียนของสมาคมฯต่อไป

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตามข้อ บั ง คั บสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยว่าด้วย จริยธรรมแห่งวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ 2553 ประกอบธรรมนูญสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ 2563 ได้กำหนดความรับ ผิ ด ทางจริยธรรมไว้ว่า เมื่อคณะกรรมการมีคำวินิจฉัยว่า ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในสังกัดสมาชิก ล ะ เ มิ ด หรือประพฤติ ผิ ด จริยธรรมแห่งวิชาชีพ ให้คณะกรรมการมีอำนาจแจ้งเป็นหนังสือให้ต้นสังกัดสมาชิกที่ถูก ร้ อ ง เรียน ลงตีพิมพ์หรือประกาศเพื่อ เ ผ ย เ เ  พ ร่ คำวินิจฉัยหรือประกาศเพื่อเ ผ ย เ เ พ ร่ ข้อความคำขอ โ ท ษ ต่อผู้ เ สี ย หายตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ และให้ส่งคำวินิจฉัยไปยังต้นสังกัดของผู้นั้น เพื่อดำเนินการลง โ ท ษ แล้วแจ้งผลให้สภาการสื่อมวลชนทราบโดยเร็ว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ในกรณีที่เห็นสมควร สภาการสื่อมวลชนอาจตักเตือน เป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากแจ้งผลการพิจารณาให้แก่ผู้ถูก ร้ อ งเรียนทราบแล้ว ให้สภาการสื่อมวลชนเผย เ เ พ ร่ คำวินิจฉัยต่อสาธารณะต่อไป ส่วนความรับ ผิ ด  ชอบที่นอกเหนือไปจากนี้ ก็ขึ้นอยู่กับนักเล่าข่าวชื่อดังและต้นสังกัดจะแสดงความสำนึกมากน้อยเพียงใด ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินในขั้นสุดท้ายเอง เพราะสำนึกแห่งจริยธรรมนั้นอยู่เหนือกฎหมาย ขึ้นอยู่กับจิต สำนึก ชั่ ว ดีของแต่ละคน เพราะบางคนบางบริษัทอาจไม่สนใจในเรื่องเหล่านี้หวังเพียงแค่ให้มีเรตติ้งเยอะๆ มีโฆษณาเข้ามากๆเท่านั้น ไม่สนใจเรื่องจริยธรรมและศีลธรรมอันดีของสังคมเลยก็ได้