เตือน 4 จังหวัดภาคใต้ ฝนถล่มหนัก น้ำท่วมจมบาดาล

ถือเป็นอีกข่าวที่ได้รับความสนอกสนใจจากประชาชนจำนวนไม่น้อย เมื่อสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ตอนล่ างยังวิกฤ ติ โดยเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ จ.นราธิวาส ฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้แม่น้ำสายหลัก 3 สายประกอบด้วย แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำสุไหงโก-ลก และแม่น้ำบางนรา ปริมาณน้ำล้นตลิ่งและสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชน น้ำท่วม 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บาเจาะ อ.ยี่งอ อ.สุไหงปาดี อ.เจาะไอร้อง อ.ระแงะ อ.จะแนะ อ.แว้ง อ.สุคิริน และ อ.สุไหงโก-ลก

ส่วนอำเภอที่อยู่ในสภาวะวิกฤ ติมี 3 อำเภอ คือ อ.สุคิริน อ.แว้ง และ อ.สุไหงโก-ลก เนื่องจากมวลน้ำป่าที่สะสมอยู่บนเทือกเขาสันกาลาคีรีในพื้นที่ อ.สุคิริน ไหลลงมาสมทบลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก ทะลักเข้าพื้นที่แล้วระบายลงสู่ทะเลที่ อ.ตากใบ

ด้าน พ.ท.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 สั่งการให้ ร.ท.พงศกร เทพษร รอง ผบ.ร้อย ร.15112 นำกำลังนั่งเรือท้องแบนตระเวนช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนหัวสะพาน และท่ากอไผ่ อ.สุไหงโก-ลก และอพยพชาวบ้าน 49 ครัวเรือน รวม 170 คน ไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวโรงเรียนเทศบาล 4 บ้านทรายทอง มีเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จัดเตรียมไว้รับรอง

ที่ จ.ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เบตง อ.ธารโต อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง อ.ยะหา อ.กาบัง อ.เมืองยะลา และ อ.รามัน ฝนตกอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำเขื่อนบางลางล้นสปิลเวย์ ต้องระบายน้ำออกชั่วโมงละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนใน อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง และ อ.เมืองยะลา น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำปัตตานี ระดับน้ำสูงถึงเอว บางพื้นที่เกิดดินสไลด์ปิดถนน

ขณะที่นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จ.ยะลา สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศูนย์บรรเทาสาธารณภั ย และฝ่ายปกครองในพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ เร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหายของประชาชน เพื่อเตรียมประกาศพื้นที่ภั ยพิบั ติ กำชับให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่

ที่ จ.ปัตตานี เขื่อนบางลางเปิดประตูระบายน้ำที่ล้นสปิลเวย์เพื่อรักษาตัวเขื่อน ทำให้พื้นที่ริมน้ำและลุ่มต่ำน้ำท่วมสูงที่ อ.ยะรัง อ.หนองจิก และ อ.เมือง ส่วนที่บ้านยือโมะและบ้านจางา ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง น้ำท่วมสูงถึงหน้าอก ชาวบ้านเดือดร้อน 300 ครัวเรือน บางครอบครัวต้องอพยพไปอาศัยบ้านญาติ ถนนทางเข้าหมู่บ้านน้ำท่วมสูง และรถไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะ

ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำเขตเทศบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา เร่งอพยพขนย้ายข้าวของไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว หลังเกิดน้ำป่าไหลหลากกระแสน้ำแรง ระดับน้ำสูงมิดหัว ถนนสายหลักรถไม่สามารถสัญจรได้ชาวบ้านต้องเฝ้าระวั งกระแสน้ำป่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่ อ.นาทวี ยังมีน้ำท่วมขังเป็นบางจุด

นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทย า ออกประกาศเตือนเรื่องสถานการณ์อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 1 ว่า ในช่วงวันที่ 8-12 ม.ค. ภาคเหนือและอีสานอากาศจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากที่ จ.พัทลุง นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล และทำให้คลื่นลมอ่าวไทยมีกำลังแรง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่ าวว่า กำชับกระทรวงมหาดไทย กองทัพและหน่วยงานอื่นๆ จัดกำลังพลและอุปกรณ์ลงไปช่วยเหลือให้ทันท่วงที พื้นที่ใดที่สถานการณ์คลี่คลายต้องเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเตรียมการฟื้นฟูทั้งกายภาพ จิ ตใจ และความเดือดร้อนของประชาชนในทุกเรื่อง ทั้งนี้ขอฝากประชาชนว่าห่วงใยเสมอ ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่ห่วง เราคือคนไทยด้วยกัน ช่วยกันรวมไทย สร้างชาติ ต้าน CV-19 ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยน้ำมือของคนไทยทุกคน

อย่างไรก็ตาม ต้องขอเป็นกำลังใจให้กับทุกพื้นที่ ที่ประสบภั ยน้ำท่วมด้วยนะคะ ขอให้ผ่านวิกฤ ตในครั้งนี้ไปได้ด้วยดีค่ะ